วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การกระทำความผิดในสังคมดิจิทัล

การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์





     หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าประเทศของเพิ่งจะมีกฏหมายมารองรับเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ คือ

              พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
ณ วันที่ 10 มิ.ย. พ.ศ.2550
มีผลบังคับใช้ในตั้งแต่ พุธที่ 18 ก.ค. พ.ศ.2550

     ในขณะเดียวกันอาจมีบางคนหรือหลายๆคนพอทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้กันบ้างแล้ว แต่ในปัจจุบันถึงจะมีกฏหมายมารับรองในเรื่องดังกล่าว ก็ยังพบเห็นคนเรากระทำความผิดและไม่ใส่ตามปกติ  
     โดยประเด็นที่จะพูดต่อไปนี้คือ เรามาดูกันว่า พรบ. มาตราที่เท่าไหร่บ้างที่ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ไม่ใส่ใจและยังเห็นเป็นเรื่องปกติอีกด้วย ซึ่งผู้เขียนคิดว่ามีดังนี้

มาตรา ๙ ผู้ใดทําให้เสียหาย  ทําลาย  แก้ไข  เปลี่ยนแปลง  หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ
บางส่วน  ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ  ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี  หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท  หรือทั้งจําทั้งปรับ

   จากมาตราการที่ ๙ นี้ โดยความคิดของผู้เขียนคิดว่าพบเจอบ่อยสำหรับในแวดวงเพื่อนๆด้วยกันเองที่แอบเข้ารหัสของอีกฝ่าย ยกตัวอย่างใน facebook เพื่อนจะแอบเข้ามาตั้งสถานะแกล้งกันบ้าง หรือ เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ซึ่งคนทั่วไปอาจจะเห็นว่าเป็นเพียงการแกล้งกันเล่นธรรมดาๆ แต่ปรากฏว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดนะคะ ซึ่งทางที่ดีควรจะ log out ทุกครั้งหลังเลิกใช้งานนะคะ เพื่อผู้อื่นจะได้ไม่สามารถมาเข้าถึงข้อมูลของเราได้

มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้  ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี  หรือ
ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท  หรือทั้งจําทั้งปรับ
(๑)  นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน  หรือ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(๒)  นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  โดยประการที่น่าจะเกิด
ความเสียหายต่อความม่ันคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓)  นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด  ๆ  อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔)  นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆที่มีลักษณะอันลามกและ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(๕)  เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม  (๑)   (๒)  (๓)  หรือ  (๔)

     จากมาตราที่ ๑๔ จะพบเห็นได้ในข้อที่ (๔) พวกที่ชอบเผยแพร่ภาพหรือคลิปวีดีโอต่างๆในลักษณะทางลามก อนาจาร ซึ่งในปัจจุบันก็ยังพบเห็นได้อยู่ ยกตัวอย่างเช่น ภาพใน facebook ที่จะมีบางคนแต่งตัวล่อแหลม ไม่เหมาะสม และโพสต์ภาพตัวเองลงอาจจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตามก็ยังพบเห็นกันอยู่นะคะ หรืออย่างข่าวที่นักเรียนม.ต้นหลายคนถอดเสื้อผ้าออกเหลือเพียงยกทรงแล้วโพสต์ภาพนั้นลงใน Internet เป็นการกระทำที่มีความผิดนะคะ

สามารถอ่านข่าวเต็มๆได้จาก

มาตรา ๑๖ ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น  และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น  ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง  ถูกดูหมิ่น  ถูกเกลียดชัง  หรือได้รับความอับอาย  ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี  หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท  หรือทั้งจําทั้งปรับ

   จากมาตราที่ ๑๖ ก็พบมากโดยผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นักร้อง ดารา อาจทำกันเล่นๆ เพื่อความบันเทิง แต่ความจริงแล้วผู้เสียหายสามารถเอาผิดได้นะคะ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้กระทำผิดอาจจะตัดต่อเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้มีเจตนาจะก่อความเสียหาย แต่ก็จะมีคนบางส่วนนำภาพนั้นออกไปโดยการ coppy บ้าง share บ้าง ซึ่งสุดท้ายแล้วจะเห็นได้ว่าสามารถก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ เช่นข่าวนี้เป็นต้น 

สื่อเกาะติด"แซนดี้"ถล่มสหรัฐ มือป่วนปล่อย"ภาพฉลามตัดต่อ"



หรือ

มือดีตัดต่อภาพ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ พร้อมระบุเป็นเกย์ลงนิตยสาร




   สุดท้ายขอฝากไว้ว่า เราควรจะระมัดระวังในการใช้คอมพิวเตอร์ให้มากขึ้น ไม่ควรจะละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นและควรปกป้องสิทธิ์ของตนเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ


แหล่งที่มา






วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จุดเริ่มต้นของความสับสน

โลกที่ยังสับสน......
       
      หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมถึงได้ตั้งชื่อบล็อกว่า Praew-world/โลกที่ยังสับสน  555 เพราะว่าผู้เขียนเป็นคนที่ยังสับสนและงงๆกับชีวิตของตนเองอยู่ในตอนนี้ และครั้งนี้ก็เป็นการเขียนบล็อกครั้งแรกนะคะ
     ถ้าอยากรู้ว่าทำไมชีวิตถึงสับสน???  มาทำความรู้จักกับผู้เขียนก่อนละกันนะคะ


           ชื่อนางสาวมณีวรรณ  อู๋หนู  ชื่อเล่น แพรว ค่ะ เป็นคนจังหวัดสิงห์บุรี เกิดวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พศ.2534  เป็นลูกคนแรกและโตสุดของครอบครัว มีน้องสาว 3 คนค่ะ ตอนนี้ผู้เขียนเป็นนิสิตอยู่คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ(กศ.บ) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว ประสานมิตร) เรียนอยู่ปี 3 แล้วค่ะ                                                               
           โดยนิสัยส่วนตัวแล้วเป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่อาจจะมึนๆ อึนๆ มากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ 555  และก็ไม่ค่อยกล้าแสดงออก แต่ก็ร่าเริง และขรึมๆในบางครั้ง คนส่วนมากที่ไม่ค่อยรู้จักจะมองว่าเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ได้เป็นคนเรียบร้อย ขนาดนั้น แต่ก็ต้องดูว่าสถานการณ์ไหนควรหรือไม่ควรตามกาละเทศะอะค่ะ 

จุดเริ่มต้นของความสับสน
                   
                      เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ชั้นม.6 ช่วงที่กำลังจะAdmission เลือกเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ หลายคนอาจจะบอกว่าช่วงนั้นใครๆก็เครียดใครๆก็สับสนใช่มั้ยคะ??  แต่จะบอกว่าตอนแรกผู้เขียนถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ตอนเด็กๆว่าให้เรียนหมอ หรือคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ มาโดยตลอดๆ เพราะพ่อแม่ก็ทำงานอยู่ในสายนี้ และผู้เขียนเองก็เรียนทางสายวิทย์-คณิตมาแบบเคร่งเครียดเลยก็ว่าได้ แต่ปรากฏว่าตอนAdmission ได้มาติดคณะที่กล่าวมาแล้วข้างต้น "เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ"  ชีวิตไม่เคยคิดที่จะเรียนในสาขานี้ แต่ว่าทำไมถึงเลือกมาเรียน? หลายคนคงถามแบบนี้ ผู้เขียนก็ยังงงๆอยู่ ความจริงก็เลือกคณะที่เป็นทันตแพทย์ และเภสัช แต่บังเอิญว่าความสามารถไม่เพียงพอจริงๆๆ คะแนนไม่ถึงค่ะ TT และก็มีความคิดผ่านมาแวบหนึ่งในสมองว่า ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ชอบที่สุดตอนทำข้อสอบในสมัยม.ปลาย จึงเลือกมาเรียนและติด แต่พอติดแล้วเรื่องราวต่อมาทำให้สับสนยิงขึ้นไปอีก??

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
ป.ล.เรื่องราวดูสับสนไหมคะ? ต้องเข้าใจหน่อยชีวิตยังสับสนค่ะ!